วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 อันดับโรงแรมในเมืองของเอเชีย

ผลสำรวจจาก www.travelandleisure.com

1. The Peninsula, Bangkok
อันดับที่ 6 ของปี 2009
370 ห้อง พื้นไม้สัก เฟอร์นิเจอร์ที่บุด้วยผ้าไหม ห้องน้ำหินอ่อน และระบบควบคุมอันทันสมัย บนตึก 37 ชั้น ที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา

2. Four Seasons, Singapore
โรงแรมที่ดีที่สุดบนในย่านช็อบปิ้งบนถนน Orchard โรงแรมติดกับ Clob 21 สถานที่รวบรวมร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง กว่า 30 ยี่ห้อจากยุโรปและอเมริกา ห้อง 255 ห้องที่ผสมลวดลายแบบจีน พรมลายดอกพลัม และอุปกรณ์อันทันสมัย

3. Shangri-La Hotel, Singapore
รูปทรงห้องที่ไม่ธรรมดาทั้งสามปีก อยู่ไม่ไกลจาก Orchard Road

4. The Peninsula, Hong Kong
อันดับ 3 ของปี 2009
คุณสามารถชมวิว Victoria Harbour ได้ในขณะนั่งอ่างอาบน้ำ การตกแต่งทั้งหมดเป็นแบบอังกฤษ เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม ผ้าทอ เซรามิกและภาพศิลปะติดผนังแบบจีน

5. Taj Mahal Palace & Tower
อันดับที่ 16 ของปี 2009
เพดานโค้ง พรมผ้าไหม เสาหินสี ล็อบบี้อันหรูหราในแบบร่วมสมัย กระจกเขียนสี

6. Ritz-Carlton, Financial Street, Beijing
อันดับ 7 ของปี 2009
โรงแรมแบบโมเดิร์น โปร่ง สวยงามด้วยสีครีมและสีเทานกพิราบ ภาพถ่ายสีขาวดำ ห้องน้ำหินอ่อนและโครเมียม มีห้องที่มองเห็นวิวหลังคาของพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

7. Mandarin Oriental, Bangkok
อันดับ 1 ของปี 2009
393 ห้องที่มีหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถจ้างบัตเลอร์ส่วนตัวได้ (แขกทุกคนสามารถจ้างบัตเลอร์ได้หนึ่งคน)

8. The Peninsula, Beijing
อันดับ 21 ของปี 2009
มีการปรับปรุงเมื่อปี 2004 ให้ทันสมัยทั้ง 525 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานี และอุปกรณ์อันทันสมัยเช่น ทีวีพลาสมาขนาด 42 นิ้ว ควบคุมอุณหภูมิและแสงไฟด้วยระบบสัมผัส

9. Mandarin Oriental, Hong Kong
อันดับ 25 ของปี 2009
มีการปรับปรุงจนแล้วเสร็จในปี 2006 ด้วยงบ 150 ล้านดอลลาร์ ทั้ง 502 ห้องได้ขยายให้กว้างขึ้น ด้วยการปิดระเบียงด้วยกระจก สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยอย่าง Dock สำหรับวาง iPod, Wi-Fi, ควบคุมอุณหภูมิและแสงไฟด้วยระบบสัมผัส การตกแต่งต่างๆ ก็มีการปรับปรุงด้วยเช่นกัน ทั้งผ้ากำมะหยี่ ผนังไม้ และเซรามิกแบบเอเชียหลากสีสัน

10. Leela Palace Kempinski
เป็นการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในการจัดอันดับ (World's Best debut)
แขกทั้ง 80 ห้องจะมีทางเข้าออกส่วนตัว ห้องชุดเคลือบทอง เฟอร์นิเจอร์ที่ทำขึ้นโดยเฉพาะ

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พวงมาลัยซ้ายหรือขวา






ใครเอ่ยเป็นคนกำหนดว่าประเทศไหนจะขับรถพวงมาลัยซ้าย ประเทศไหนจะขับพวงมาลัยขวา ที่มาต้องย้อนไปร่วม 200 กว่าปีที่แล้ว เนื่องจากอังกฤษเป็นประเทศแรกที่เริ่มขับรถยนต์โดยใช้พวงมาลัยซ้าย และยุคดังกล่าวยังเป็นยุคอาณานิคมกำลังต้องการเอกราช อานานิคมอเมริกาหลังจากต่อสู้ได้รับเอกราชจากอังกฤษเรียบร้อย จึงต้องการแสดงการต่อต้านและไม่เดินตามรอยที่อังกฤษปฏิบัติกัน คือ เลือกขับรถด้วนพวงมาลัยทางขวามือ หลังจากนั้นไม่นานประเทศอื่นๆในยุโปรที่ต่อต้านอังกฤษเช่นกัน ก็ทำตามอเมริกาด้วยการหันมาขับรถด้วยพวงมาลัยขวา จนกระทั่งปัจจุบัน


ตัวอย่างประเทศที่ใช้พวงมาลัยขวา

อเมริกา แคนนาดา เม็กซิโก อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี จาไมกา ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี เนเธอแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ซาอุดิอะราเบีย สหรัฐอาหรับอิมิเรต โมร็อคโค รัสเซีย จีน มองโกเลีย เกาหลีใต้ ยูเครน สเปน โปรตุเกส เวียดนาม ลาว พม่า มาดากัสกา ไนจีเรีย ลักเซมเบิร์ก สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ค ฟินแลนด์ ฟิลิปปินส์ แอลจีเรีย ลิเบีย ซูดาน ตูนิเซีย ตุรกี อิรัก อิหร่าน โรมาเนีย ฮังการี คาซัคสถาน



ตัวอย่างประเทศที่ใช้ พวงมาลัยซ้าย

อังกฤษ สก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อแฟริกาใต้ บังคลาเทศ ศรีลังกา บอสวานา ซิมบับเว โมซิมบิก สวาซิแลนด์ ปากีสถาน เคนยา แทนซาเนีย ฮ่องกง




วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สิ่งที่น่ารู้เมื่อต้องเดินทางไปญี่ปุ่น



มารยาทอันดี
- ควรถอดรองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านก่อนเดินขึ้นไปบนเสื่อตาตามิ
- ทิ้งขยะลงถังที่ถูกต้อง ญี่ปุ่นแบ่งขยะออกเป็นประเภทที่เผาได้ เผาไม่ได้ และขวดและกระป๋อง ดูสัญลักษณ์ได้บนถังขยะ
- ไม่สนทนาโทรศัพท์มือถือ(ถ้ามี) บนรถไฟ ควรเปิดเสียงเป็นระบบสั่น
- การอาบน้ำรวมกับคนอื่นๆ ควรปฎิบัติตามคำแนะนำที่มักมีติดไว้ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใส่ชุดชั้นในเข้าไปในห้องอาบน้ำ อาบน้ำให้สะอาดก่อนลงแช่น้ำ ไม่ถูสบู่หรือนำผ้าขนหนูลงไปในอ่างอาบน้ำร้อน
- ควรพูดขอบคุณ "อะริกาโตะโกไซมัส" เมื่อได้รับการช่วยเหลือต่างๆ

หากเจอพายุไต้ฝุ่น
ติดตามดูข่าวพยากรณ์อากาศ แม้จะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็ให้เปิดทีวีไว้ ดูประตูหน้าต่างว่าปิดสนิทดีไหม เตรียมน้ำดื่ม อาหารแห้งใส่กระเป๋าเล็ก พร้อมกระเป๋าสตางค์ หนังสือเดินทาง เสื้อผ้าติดตัวสำหรับให้ความอบอุ่น ไฟฉาย สำหรับกรณีฉุกเฉิน

หากเจอแผ่นดินไหว
ปิดแก๊สในห้องให้หมด
ให้เปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน
อย่ารีบวิ่งออกนอกอาคาร
หลบอยู่ใต้โต๊ะที่แข็งแรงกันของหล่นลงมาใส่หัว
เตรียมน้ำดื่ม อาหารแห้งใส่กระเป๋าเล็ก พร้อมกระเป๋าสตางค์ หนังสือเดินทาง เสื้อผ้าติดตัวสำหรับให้ความอบอุ่น ไฟฉาย และเปิดทีวีดูข่าวสารที่แน่นอน
ไม่ใช้ลิฟท์

สถานีตำรวจ
แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือระหว่างการเดินทางถามทางหรือของหายให้หาโคบัง (KOBAN) ป้อมตำรวจ ย่อย ๆ คอยให้ความช่วยเหลือต่างๆ มักอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ หากพาสปอร์ตหายให้ไปแจ้งที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ขอใบแจ้งความและไปติดต่อที่ทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวโดยใช้หลักฐานยื่นประกอบเหมือนกับขอทำหนังสือเดินทางใหม่ พร้อมกับแสดงใบแจ้งความประกอบ แต่ถ้าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือเหตุร้ายต่างๆ หมายเลขฉุกเฉินของตำรวจญี่ปุ่นคือคือ 110 ไม่เสียค่าบริการ

สถานเอกคราชทูตไทยในญี่ปุ่น

Royal Thai Embassy in Japan
3-14-6, Kami-Osaki, Shinagawa-ku, Tokyo 141-0021
Tel:03-3447-2247
http://www.thaiembassy.jp/

Royal Thai Consulate-General in Osaka
Bangkok Bank Bldg. 1/4/5Fl., 1-9-16 Kyutaro-machi, Chuo-ku, Osaka City 541-0056
Tel: 06-6262-9226 (-9227)

ระบบไฟที่ญี่ปุ่นและปลั้กไฟ
ตามบ้านเรือนทั่วๆ ไป ใช้กระแสไฟฟ้า 100 โวลท์ ชนิดกระแสสลับทั่วประเทศ แต่มีความถี่สองขนาด คือ ภาคตะวันออก เช่น โตเกียว นิกโก้ โยโกฮาม่า ใช้ 50 เฮิร์ช ภาคตะวันตก เช่น เกียวโต โอซาก้า นารา ใช้ 60 เฮิร์ช โรงแรมในญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองใหญ่จะมีปลั๊กไฟสองระบบ คือ 110 และ 220 โวลท์ ให้ใช้แต่เต้าเสียบมักจะใช้ชนิดสองขาเแบบแบนเท่านั้น แบบเดียวกับสองขาแบนที่ใช้ในเมืองไทย โรงแรมมีเครื่องเป่าผมและเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆ ให้ใช้ฟรี หรือมิฉะนั้น โรงแรมใหญ่ๆ จะมีเครื่องเป่าผมให้ใช้ฟรีแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ มีให้เช่า

วิธีการใช้โทรศัพท์มือถือที่ ญี่ปุ่น
การใช้โทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ
ท่านสามารถใช้โทรศัพท์ไปต่างประเทศ เรียกแบบบุคคลต่อบุคคล หรือเรียกแบบเก็บเงินปลายทาง โดยใช้บริการของ เคดีดีไอ เท่านั้น โดยกดหมายเลข 0051(ต่อโดย Operator) จากที่ใดก็ได้ในญี่ปุ่น
บริการโทรศัพท์มือถือ ให้เช่า ติดต่อได้ดังต่อไปนี้คือ
1. โดโคโม (Docomo for Roaming in Japan)
สนามบิน Narita อาคาร1 ชั้น 4 และอาคาร 2 ชั้น2A (07.00-20.30 น.)
สนามบิน Kansai ชั้น 1 (07.00-20.30 น.)
สนามบิน Centrair (Chubu) ชั้น3 (07.00-21.00 น.)
ติดต่อสอบถาม โทร. 04-4210-5109 (สำหรับโทรจากต่างประเทศ)
โทร. 0120-654-100 เวลา 09.00-21.00 น.
(สำหรับโทร.ในญี่ปุ่นไม่คิดค่าบริการ) และ DoCoMo Internation Information Centerสอบถามฟรี
โทร. 0120-005-250 หรือ http://roaming.nttdocomo.co.jp/index.html

2. พูพูรู (PuPuRu Cell Phone Rental)
สนามบิน Narita อาคาร 1 ชั้น 1, 4 และอาคาร 2 ชั้น 1, 3 (06.30-21.00 น.)
สนามบิน Kansai ชั้น 1 (06.30-21.30 น.)
สนามบิน Centrair (Chubu) ชั้น 2 (07.00-22.00 น.) และชั้น 3 (07.30-21.00 น.)

PuPuRu International Co.,Ltd. : Nihonbashi Shoko
Bldg.1F, Nihonbashi 2-5-6, Chuo-ku, Tokyo 103-0027
โทร. 03-3231-8551, www.pupuru.com

3. จีโฟน (G-Call Rental Mobile Phone in Japan)
สนามบิน Narita อาคาร 1 ชั้น 1 และอาคาร 2 ชั้น 1
(07.00-20.00 น.) โทร. 0800-6001-256
สนามบิน Kansai ชั้น 1 (07.00-20.00 น.)
โทร. 0800-6005-256
ติดต่อสอบถาม โทร. 03-5791-7101 (สำหรับโทรจากต่างประเทศ),
โทร. 0120-979-256 เวลา 09.00-17.00 น.
(สำหรับโทร.ในญี่ปุ่นไม่คิดค่าบริการ),
www.g-call.com/e

4. เทเลคอมสแควร์ (Telecom Square)
สนามบิน Narita อาคาร 1 ชั้น B1, 1, 4 และอาคาร
2 ชั้น 1, 3 (07.30-21.00 น.)
สนามบิน Kansai ชั้น 1 (07.00-21.00 น.) และชั้น 4
(08.00-20.00 น.)
สนามบิน Centrair (Chubu) ชั้น 2 (07.00-22.00 น.)
และชั้น 3 (07.30-21.00 น.)
สนามบิน Fukuoka ชั้น 1 (08.00 -20.00 น.)
หรือจองผ่านอีเมล จ่ายผ่านบัตรเครดิตทางเว็บไซต์
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 03-3239-3422,
www.telecomsquare.co.jp/

5. ซอฟท์แบงค์เคาน์เตอร์ (Softbank Counter)
สนามบิน Narita อาคาร 1 ชั้น 1, 4, 5 และอาคาร 2 ชั้น B1, 3 (07.00-21.00 น.)
สนามบิน Kansai ชั้น 1 (07.30-20.30 น.) และชั้น 4 ฝั่งใต้ (07.00-20.30 น.)
สนามบิน Centrair (Chubu) ชั้น2 (07.30-21.00) และชั้น 3 (07.00-20.30 น.)
สนามบิน Chitose ชั้น 1 (10.00 -18.00 น.)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมโทร. 03-3560-7730 หรือติดต่อ
ทางอีเมล rent@softbank-rental.jp
สำหรับในโตเกียวเปิดบริการในสถานีโตเกียวทางออก
Yaesu Central Exit วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-21.00 น.,
วันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุด เวลา 10.00-19.00 น.
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 03-3284-1170
www.softbank-rental.jp/en/

บริการโทรศัพท์มือถือให้เช่าในโตเกียว
หากประสงค์จะเช่าโทรศัพท์มือถือ จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตและบัตรเครดิต ติดต่อศูนย์ซึ่งส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษได้ ดังต่อไปนี้
1. SoftBank Yaesu เดิน 1 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Tokyo ทางออก Yaesu Central Exit แล้วเลี้ยวซ้าย
เปิดให้บริการ 10.00-21.00 น. (วันจันทร์-วันศุกร์), 10.00-19.00 น. (วันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ) โทร. 03-3284-1170
2. SoftBank Harajuku เดิน 2 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Harajuku หรือเดิน 1 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Meiji jingumae ทางออก 5 เปิดบริการตลอด 24 ช.ม. สำหรับกรอกเอกสารการขอยืมและซ่อมเครื่อง
โทร. 03-6406-0711
3. SoftBank Shibuya เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Shibuya ทางออก Hachiko
เปิดให้บริการ 10.00-21.00 น โทร. 03-5459-6625
4. SoftBank Roppongi จากสถานีรถไฟใต้ดิน Roppongi ทางออก 4 แล้วข้ามถนนอยู่ติดกับ Bank of Mitsubishi Tokyo UFJ ATMs เปิดให้บริการ 10.00-20.00 น.โทร. 03-5775-5011

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
บริการข่าวสารการท่อง เที่ยว
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเป็นสำนักงานให้ข่าวสารการ ท่องเที่ยวและความช่วย
เหลือแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศขณะอยู่ในญี่ปุ่น มีทั้งที่สนามบินและ ตามเมืองต่างๆ มักอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟ เรือ เมื่อไปถึงตามสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ให้ลองหา Tourist Information Center ใกล้ๆ จะได้แผ่นที่ท่องเที่ยวแนะนำต่างๆ ที่น่าสนใจในเมืองพร้อมแผ่นพับหรือตารางรถไฟ

ตัวช่วยอื่นๆ เพื่อการท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย

สถานีโตเกียวสะดวกมากขึ้นด้วยบริการใหม่ !
สถานี JR โตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมระดับประเทศ เปิดบริการใหม่ 3 ประเภทที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
1.ที่แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ที่จัดเตรียมสกุลเงินถึง 31 ประเภท
2. ที่ปรึกษาเรื่องการท่องเที่ยว ฟรี
3.ที่ฝากกระเป๋าและเคาน์เตอร์สำหรับส่งพัสดุ

สนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสะดวกมากขึ้นด้วยบริการทั้งหลายเหล่านี้

1. ที่แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
Travelex TOKYO STATION GRANSTA
ที่ตั้ง : ชั้น B1 ของสถานีโตเกียว อยู่ในเขต GRANSTA ข้าง STATION CONCIERGE
หมาย เลขโทรศัพท์ : +81 (0)352-20-5021
เวลา : 9:00 - 20:00 น.
เปิดทุกวัน เว็บไซต์ URL : www.travelex.jp/

2. ที่ปรึกษาเรื่องการท่องเที่ยว
STATION CONCIERGE TOKYO
ที่ตั้ง : ชั้น B1 ของสถานีโตเกียว อยู่ในเขต GRANSTA
เวลา : 9:00 - 20:00 น. เปิดทุกวัน
มีพนักงานต้อนรับ ภาษาอังกฤษประจำอยู่ตลอด
เว็บไซต์ URL : http://www.tokyoinfo.com/

3. ที่ฝากกระเป๋าและเคาน์เตอร์สำหรับส่งพัสดุ
STATION GRANSTA CLOAK
ที่ตั้ง : ชั้น B1 ของสถานีโตเกียว อยู่ในเขต GRANSTA
เวลา : 9:00 - 20:00 น. เปิดทุกวัน
มีที่ฝากกระเป๋าแบบตู้เก็บของหยอดเหรียญจำนวนมาก และแบบเคาน์เตอร์เหมือนในโรงแรม
หมายเลข : +81 (0)352-88-5911
ค่าบริการ : ไม่จำกัดขนาด ชิ้นละ 500 เยน แต่ต้องมารับภายในวันเดียวกัน ในเวลาบริการ มีที่ฝากส่งพัสดุด้วย บริษัท kuronekoyamato
เว็บไซต์ URL : www.kuronekoyamato.co.jp/

เคาน์เตอร์ที่แลกบัตรโดยสาร
ตั้งแต่วันที 17 เดือนตุลาคม 2007 ที่แลกบัตรโดยสารอย่าง (Japan Rail Pass) หรือ (JR East Pass) เปลี่ยนเคาน์เตอร์ใหม่

เคาน์เตอร์ใหม่
(JR East) อยู่ข้างเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ตรงทางออกด้าน Yaesu Kita ชื่อเคาน์เตอร์คือ (Japan Rail Pass Exchange Corner)
เปิดบริการ : 7:30 - 20:30 น. ทุกวัน

(JR Tokai) แลกได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว ตรงทางออก Yaesu Kita, Yaesu Minami และ Nihonbshi
เปิดบริการ : เวลา 5:30 - 22:45 น. ไม่มีวันหยุด

ที่มา http://www.yokosojapan.org

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คำถามที่ พบบ่อยเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง


ถาม ไปเที่ยวที่ไหนดี
ตอบ ถามตัวเองก่อนว่าชอบการไปเที่ยวใน ลักษณะแบบไหน ไปชมวัฒนธรรม ชมธรรมชาติ ชิมอาหาร หรือไปจับจ่ายซื้อของ จากนั้นจึงค่อยวางแผนการเดินทาง โดยคิดเหมือนว่าเรากำลังคิดโปรแกรมทัวร์ถูกใจไปกันเอง เขียนวันที่ไปทั้งหมดลงกระดาษ เที่ยวบินจากเมืองไทยไปกลับ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ วิธีการไป ยานพาหนะที่ใช้ ที่พักในแต่ละคืน และลองคำนวนค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการเดินทาง บวกค่าอาหาร การเดินทางก็จะราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอน


ถาม ขอ วีซ่ายากไหม
ตอบ วีซ่านักท่องเที่ยว หากเตรียมเอกสารในการขอวีซ่าให้ครบถ้วนและถูกต้องตามที่กำหนด มีแผนการเดินทาง และที่พักแนบไปด้วย เผื่อเวลาในการไปขอวีซ่าล่วงหน้า ไปเป็นกลุ่มควรยื่นเอกสารพร้อมกัน ทางสถานทูตก็จะพิจารณาไปตามระเบียบ และสำหรับคนที่เคยไปญี่ปุ่นไม่ใช่ครั้งแรก และครั้งที่แล้วไปพักไม่เกิน 15 วัน และครั้งต่อไปไปเที่ยวไม่เกิน 15 วัน จะมีเอกสารที่ต้องใช้น้อยลง เพื่ออำนวยความสะดวก ดูรายละเอียดข้อควรระวังในการขอวีซ่าได้ที่ www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/general.htm


ถาม การจองที่พักต้องทำอย่างไร
ตอบ สามารถจองที่พักผ่านทางเว็บไซต์ ได้ตามปรกติเหมือนการท่องเที่ยวที่อื่นๆ เว็บไซต์จองที่พักเป็นภาษาอังกฤษที่อำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมีอำนวยความสะดวกมากพอ ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของ JNTO www.jnto.go.jp/a-search/search/search_form.php


ถาม ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย จะไปเที่ยวได้ไหม
ตอบ ถ้าเตรียมแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้าอย่างละเอียดไปจากเมืองไทยจะช่วยได้มาก และถ้าไปกันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มก็เพิ่มความมั่นใจขึ้นมาอีก คนญี่ปุ่นแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่สะดวก แต่ถ้ามีเวลาเขาก็จะให้ความช่วยเหลือ บอกเรื่องสถานที่ต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้ารู้ภาษาญี่ปุ่นจะยิ่งสะดวกมากขึ้น และถ้าต้องการไปยังเมืองที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวยังไม่พลุกพล่าน ควรไปกับผู้ที่รู้ภาษาญี่ปุ่นจะดีกว่า


ถาม จำเป็นต้องซื้อตั๋ว JAPAN RAIL PASS (JR PASS) เมื่อไปท่องเที่ยวเองหรือไม่
ตอบ การซื้อตั๋วJAPAN RAIL PASS ได้นั้น ต้องวางแผนการเดินทางให้เรียบร้อยเสียก่อน และลองสำรวจเส้นทางดูว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปเหมาะสมและคุ้มค่า คุ้มเงิน สำหรับการซื้อตั๋วหรือไม่ จังหวัดที่ไปมีชินคันเซนผ่านหรือไม่ แนะนำสำหรับคนที่ต้องการเดินทางจากโตเกียวไปเกียวโต หรือภูมิภาคส่วนอื่น ด้วยการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง ในเวลา 7 วัน 14 วัน หรือ 21 วัน ตามเวลาที่ระบุไว้ในตั๋ว แต่ถ้าไปแค่โตเกียว หรือ แถบคันไซ ขอแนะนำบริการตั๋วโปรโมชันการเดินทางแบบอื่นๆ


ถาม อยาก ไปชมซากุระ ต้องไปในช่วงไหน
ตอบ ในฤดูใบไม้ผลิ(เดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) ดอกซากุระมักจะบานช่วงปลายเดือนมีนาคมและเมษายน หรืออาจจะไปช่วงสงกรานต์และเช็คว่าซากุระที่ไหนยังมีบานอยู่บ้าง ทุกๆ ปีกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซะคุระ ผลิดอก และจะประกาศให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งชาวญี่ปุ่นก็จะวางแผนเดินทาง ไปชมดอกซะคุระตามช่วงเวลาดังกล่าว ดอกซะคุระจะเริ่มบานจากทางภาคใต้ เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศใน ปีนั้นๆ ช่วงเวลาที่ระบุจึงเป็นเพียงการประมาณการณ์ เนื่องจากไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ดอกซะคุระจะบานเมื่อไร ระยะเวลาที่ดอกซะคุระบานแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ใน 1 ปี ดอกซะคุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์ เท่านั้น


ถาม ไป ชมภูเขาฟูจิที่ไหนและอย่างไร
ตอบ ภูเขาฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 3776 เมตร ความสง่างามของภูเขาฟูจิที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปชมกันมาก บริเวณที่จะชมทิวทัศน์ได้ชัด มีหลายที่ทั้งเมืองรอบๆ เขต อุทยานแห่งชาติฟูจิฮิฮาโกะเนอิซิซึ และรอบทะเลสาบทั้ง 5 ได้แก่ทะเลสาบ ยามานากาโกะ คาวากุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจินินโกะ ไซโกะ รอบภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเดินทางไปโดยรอบได้ด้วยรถไฟสายโอดะคิว และผู้ที่สนใจไต่ภูเเขาไฟฟูจิขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อม และไปในช่วงที่เปิดให้ขึ้นไปปีนเขาเที่ยวชมในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ของทุกปีและจากสถานีคาวากุจิโกะ จะมีบริการรถบัสประจำทางไปถึงสถานีชั้น 5 ของภูเขาไฟฟูจิ ดูรายละเอียดบัตรโดยสารและการเดินทางได้ที่ www.odakyu.jp/english/


ถาม ถ้าไปในช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม) มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
ตอบ ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือน สิงหาคม ชมทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ลาเวนเดอร์สีม่วงสวย และมีกลิ่นหอมได้ที่ เมืองฟุระโนะบนเกาะฮอกไกโด นอกจากนี้ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีเทศกาลที่สำคัญมากมาย รวมทั้งเทศกาลดอกไม้ไฟ


ถาม ถ้าอยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีไปช่วงไหนจึง จะดี
ตอบ ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน)ชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือที่เรียกว่า โคโย ได้ในช่วงปลายตุลาคมถึงสิ้นพฤศจิกายน โดยใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีจากเหนือ สู่ตะวันออก ตะวันตก ลงไปใต้


ถาม อยากไปสัมผัสหิมะควรไปที่ไหนบ้าง
ตอบ หิมะตกในฤดูหนาว (เดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์) ฤดูหนาวมีเทศกาลประจำฤดูตามเมืองต่าง ๆ และการประดับไฟ เช่น เทศกาลหิมะ ที่เกาะฮอกไกโดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ www2.jrhokkaido.co.jp/global/index.html เทศกาลประดับโคมไฟที่ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki) และเทศกาลคามาคุระ (Kamakura) ที่เมืองโยโคเตะ(Yokote) ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมกระท่อมหิมะยามราตรีที่สวยงามน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในฤดูหนาวเช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนโมบิลและการเล่นเพลิดเพลินกับหิมะ

ที่มา http://www.yokosojapan.org

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 อันดับ เมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในเอเชีย



Travelers’ choice 2010 จาก www.tripadvisor.com

1. Siem Reap, กัมพูชา

เสียมราฐหรือเสียมเรียบเป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วเต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร และไนต์คลับ หากคนที่มาที่นี่ไม่ได้มาชมสิ่งเหล่านี้ แต่มาเพื่อสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้น คือ วัดโบราณที่เป็นที่รู้จัก อุทยานประวัติศาสตร์เมืองพระนคร


2. เกียวโต, ญี่ปุ่น

ไม่ต้องคำนึงถึงฤดูกาล เป็นเรื่องยากมากที่คุณจะไม่ตกอยู่ภายใต้บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติคของเกียวโต ชื่นชมวัดคินคาคูจิ (Kinkaku-ji Pavilion) สนุกกับการรำของเกอิชาหรือเพลิดเพลินในร้านอาหารที่แม่น้ำคาโม (Kamo River) มีเพียงโรมเท่านั้นที่มีสถานที่ที่เป็นมรดกโลกมากว่าที่เมืองหลวงในอดีตของคนญี่ปุ่น แต่ที่นี่มีความสุขไม่เหมือนโรม เกียวโตยังคงความสงบและโรแมนติคท่ามกลางความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในฤดูร้อน


3. หลวงพระบาง, ลาว

เมืองมรดกโลกและเมืองหลวงในอดีตของลาว ที่คุณจะได้เห็นทุกอย่างตั้งแต่วัดที่มีหลังคาสีทองไปจนถึงสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสในยุคอาณานิคม วัดวาอารามมีมากมายในหลวงพระบาง ในตอนเช้าจะเห็นพระออกมาบิณฑบาตร


4. ปักกิ่ง, จีน

เมืองปักกิ่งที่มีอายุกว่าสองศตวรรษ โดยกุบไลข่าน ที่นี่คุณจะพบกับประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าทั้งในอดีต (พระที่นั่งเป่าเหอ, พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวน, พระราชวังต้องห้าม) และเมื่อไม่นานมานี้ (หอรำลึกท่านประธานเหมา, จัตุรัสเทียนอันเหมิน)


5. เชียงใหม่, ไทย

เชียงใหม่เป็นที่น่าศึกษาถึงความแตกต่าง ที่นี่มีวัดราณ (มากกว่า 300) และบาร์ โรงแรม ร้านอาหาร แล้วยังมีกิจกรรมพจญภัยและสปาอันหลากหลาย


6. Ubud, อินโดนีเซีย

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ควรมาลองการนวดแบบบาหลีและหนึ่งในสถานที่อันดับต้นๆ สำหรับการทำสปาในเอเชีย นอกจากนั้นยังมีศิลปะแบบบาหลี ลิงมากมายที่ Monkey Forest Park อย่าพลาด valley of tomb cloisters ที่ Gunung Kawi


7. Yangshuo, จีน

หยางซั่วมีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ แม่น้ำ Ri ตามแนวเขา ที่คุณสามารถล่องเรือหรือแพไม้ไผ่ ถนนในเมืองก็ยังคงความดั้งเดิมอย่างในอดีต West Street หนึ่งในสถานที่ที่มีชีวิตชีวาที่สุดของเมือง


8. ซีอาน, จีน

ปัจจุบันกำแพงเมืองสมัยราชวงศ์หมิงและกำแพงวังราชวงศ์ถังสามารถหาดูได้ที่นี่ หุ่นทหารโบราณ (Army of Terracotta Worriors) รูปปั้นทหารกว่า 7,000 ชิ้นสมัยราชวงศ์ฉินที่ถูกค้นพบในปี 1974 อย่าพลาด Shaanxi History Museum หรือ Huaqing Hot Springs ซึ่งเคยเป็นที่อาบน้ำของจักรพรรดิ


9. กรุงเทพ, ไทย

กรุงเทพเต็มไปด้วยวัดที่ตกแต่งอย่างวิจิตร งานฝีมืออันประณีตและรายละเอียดที่ซับซ้อน หากคุณต้องการแสงสี ชิมอาหาร หรือที่ออกไปเต้นยามค่ำคืน คุณก็สามารถทำได้ กรุงเทพมีร้านอาหารและไนท์คลับที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลก


10. อยุธยา, ไทย

ซากปรักหักพังของเมืองหลวงของอาณาจักรอยุธยา ที่ถูกทำลายจากการรุกรานของพม่าในศตวรรษที่ 18 เป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่น่ามหัศจรรย์ พระพุทธรูปไม่มีเศียรและถูกทำลายยังคงความงดงาม เจดีย์และความใหญ่โตที่เป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางอารยธรรม




วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Queenstown, New Zealand




Queenstown เป็นเมืองตากอากาศระดับนานาชาติ ตั้งอยู่ที่ Otago ทางตะวันตกเฉียงใต้บนเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ ตัวเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบ Wakatipu ทะเลสาบลักษณะผอม ยาว อันเกิดจากการไหลของธารน้ำแข็ง



นักสำรวจ William Gilbert Rees และ Nicholas Von Tunzelman เป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากที่นี่ ซึ่ง Rees เคยเดินทางมาสำรวจที่แห่งนี้ก่อนแล้วตั้งแต่ ปี คศ.1860 อย่างไรก็ตามหลังจากช่วงแรก การหาเลี้ยงชีพด้วยการทำฟาร์มแต่ในปี คศ.1862 ได้มีการค้นพบทองที่ แม่น้ำ Arrow ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีเมืองใกล้เคียงได้แก่ Arrowtown, Wanaka, Alexandra และ Cromwell



ปัจจุบันเมือง Queenstown มีประชากรราว 35,000 คน พื้นที่ 8,705 ตร.กม. Queenstown ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวแนวผจญภัย เช่น สกี, เรือสปีดโบ้ท, ล่องแก่ง, บันจี้จัมพ์, เดินป่า และตกปลา รวมทั้งในฤดูหนาวที่นี่เป็นศูนย์กลางในกีฬาฤดูหนาวหลายชนิด จึงทำให้ปัจุบันเมืองนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก


ข้อมูล www.wikipedia.org